กรณีศึกษา 5 รู้ของ Hart OTOP
-ยิ่ง ”รู้” ธุรกิจยิ่งยั่งยืน-

คุณรู้จักธุรกิจของคุณดีแค่ไหน?
อะไรเป็นตัวบ่งบอกว่าธุรกิจของคุณจะเติบโตได้อย่างยั่งยืน?

เพียง 1 ปี 7 เดือนหลังจาก”รู้”
ฮาร์ทโอทอปได้กลายเป็นธุรกิจที่ยั่งยืนตามดัชนีชี้วัด 5 รู้ แบบโตโยต้า

1. ความสามารถในการผลิต
รู้ว่าด้วยทรัพยากรที่มีสามารถผลิตได้มากขึ้นหากทำระยะเวลาผลิตในแต่ละขั้นตอนให้ใกล้เคียงกันหรือที่เรียกว่าสภาวะไหลต่อเนื่อง (Continuous Flow) ด้วยวิธีนี้กำลังผลิตสูงสุดจะเกิดขึ้นเพราะไม่มีคอขวด

ผลลัพธ์คือพวกเขาสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้มากกว่าเดิมเกือบ 2 เท่าโดยใช้คนเท่าเดิม

2. ของเสีย
รู้ว่าวิธีการผลิตในปัจจุบันมีความสูญเสียจากของเสีย มูลค่ามากถึง 8.5 ล้านบาท/ปี ด้วยการตรวจสอบคุณภาพวัตถุดิบทุกกระบวนการตั้งแต่ ก่อนนำผ้ามาตัด จนถึง ส่งมอบ

เมื่อพบปํญหาก็สามารถ
จำกัดความสูญเสียได้ปัจจุบันพวกเขามีความสูญเสียเพียง 0.1 ล้านบาท/ปี

3.การส่งมอบล่าช้า
ประสานกระบวนการขาย-ผลิต-นัดส่งมอบ โดยการจัดประชุมทีมทุกเช้าวางแผนส่งมอบล่วงหน้าทำป้ายแสดงตารางส่งมอบให้ทั้งองค์กรเห็นภาพเดียวกันเมื่อมีปัญหาสามารถแก้ไขได้ทัน (Proactive)

ทำให้อัตราการส่งมอบล่าช้า ลดลงจาก 20% เป็น 0.76%

4.สินค้าคงคลัง
รู้ว่าการเก็บสินค้าคงคลังเกินจำเป็นส่งผลเสียต่อสภาพคล่องและเสี่ยงต่อการสูญเสียเพิ่ม

การบริหารสต็อกวัตถุดิบ และสต็อกสินค้าให้สมดุลตามหลักการ Just In Time(JIT)คือผลิตในสิ่งที่จำเป็นในเวลาที่จำเป็นและด้วยปริมาณที่จำเป็น

ทำให้พวกเขามีมูลค่าสินค้าคงคลังลดลงจาก 1.2 ล้านบาท/เดือนเหลือ 0.1 ล้านบาท/เดือน

5.ต้นทุนในกระบวนการ
รู้ว่าแต่และขั้นตอนมีตันทุนการผลิตเท่าไหร่(ค่าแรง ค่าเครื่องจักร ค่าน้ำค่าไฟ ค่าขนส่ง) ทำให้สามารถคิดหาวิธีการปรับปรุงกระบวนการให้ดีขึ้นโดยลดลงจาก 2.5 เหลือ 1.2 ล้านบาท